เดี๋ยวนี้การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไม่ได้ใช้แค่ Serial Number เหมือนแต่ก่อนแล้ว หลายๆ บริษัทก็มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป
Steinberg ใช้วิธีนี้ครับ เมื่อทำการซื้อซอฟต์แวร์ อย่างเช่น Cubase ก็จะให้ Activation Code เรามาแล้วเอาไปกรอกในซอฟต์แวร์จัดการ License คือ eLicenser Control Center แล้วก็จะส่งไปตรวจสอบที่ Server ของทาง Steinberg ถ้าถูกต้องก็จะสามารถใช้งานโปรแกรม Cubase ได้
จากภาพด้านบนนี้
หมายเลข 1 คือ รายการ License ของเราทั้งหมด
หมายเลข 2 คือ รายการ License ของเราที่อยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้
License(ใบอนุญาต) ของทาง Steinberg อนุญาตให้เราใช้โปรแกรมได้ทีละเครื่องเท่านั้น ซึ่งก็คือเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราติดตั้งและทำการ Activate ไปแล้ว แต่ก็สามารถ ย้ายเครื่องได้แล้วทำการ Activate ใหม่ แต่ก็ไม่สามารถใช้พร้อมกันหลายเครื่องได้อยู่ดีครับ สรุปสั้นๆ ก็คือ ใช้ได้ทีละ 1 เครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ลองคิดตามนะครับ ถ้าเรามีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็น Desktop PC หรือ iMac อยู่ 1 เครื่อง ติดตั้งโปรแกรม Cubase ทำงานที่บ้านหรือในสตูดิโอ แต่ถ้าบางครั้งเราจำเป็นต้องออกไปทำงานนอกสถานที่โดยแค่หิ้ว Laptop ไปทำงานล่ะก้อ ต้องซื้อ Cubase อีก License เหรอ ? โอ้ว เสียเงินอีกแล้ววว มีทางอื่นไหม ?
นี่เลยครับ พระเอกของเรา USB-eLicenser (มีจำหน่ายแยกต่างหาก) หน้าตาเหมือน Thumb drive สำหรับเก็บข้อมูลเลย ใช่แล้วครับ มันมีหน้าที่สำหรับเก็บ License ของโปรแกรม แทนที่เราจะฝัง License ไว้ที่คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว และใช้ได้เครื่องเดียว ก็เปลี่ยนเป็นเก็บไว้ใน USB-eLicenser แทน ทำให้เราสามารถติดตั้งโปรแกรม Cubase (รวมไปถึงโปรแกรมอื่นๆของค่ายนี้ด้วย) ไว้บนคอมพิวเตอร์กี่เครื่องก็ได้ เวลาจะใช้งานก็เอา USB-eLicenser ไปเสียบไว้ที่คอมเครื่องนั้น ก็จะสามารถใช้งานได้ครับ
แต่…ก็ใช้ได้ทีละเครื่องเหมือนเดิมนะครับ ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันในเวลาเดียวกันหลายเครื่องได้ แต่สะดวกดีใช่ไหมล่ะครับ ไม่ต้องซื้อ License เพิ่ม แค่ซื้อ USB-eLicenser ราคาประมาณ 2-3 พัน บาทเท่านั้น เวลาไปบันทึกเสียงนอกสถานที่ ก็แค่หิ้ว MacBook ที่ติดตั้ง Cubase ไว้แล้ว พร้อมเสียบ USB-eLicenser เข้าไป ก็สามารถใช้งานได้เลยครับ
เมื่อเสียบ USB-eLicenser เข้าไปที่คอม เปิดโปรแกรม eLicenser Control Center ขึ้นมาก็จะเจอดังภาพด้านบนนี้ครับ จะเห็นรายชื่อของ License โปรแกรมของเราอยู่
USB-eLicenser เหมาะกับใคร ?
เราไม่จำเป็นต้องซื้อ USB-eLicenser มาใช้งาน ถ้าหากเราใช้งานโปรแกรมของค่าย Steinberg ในคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว เหมาะกับคนที่ต้องใช้งานสลับเครื่องคอมพิวเตอร์ไป-มา เช่นทำงานหลักๆ ใน iMac ,Desktop PC ที่ห้อง แต่ก็มีงานที่ต้องออกไปบันทึกเสียงข้างนอก โดยหิ้ว MacBook ไป เป็นต้นครับ
